การบรรทุกขนส่งเหล็กให้ถูกวิธีไม่ผิดกฎหมายและปลอดภัย


การบรรทุกขนส่งเหล็กให้ถูกวิธีไม่ผิดกฎหมายและปลอดภัย
 
   ถ้าสอบถามเกี่ยวกับการบรรทุกเหล็กในประเทศไทยว่าทำไมถึงสามารถบรรทุกยืดยาวออกนอกรถซึ่งเป็นรถปิกอัพขนส่งขนาดเล็กได้ดังรูปเกิดการไหลพุ่งของเหล็ก เกิดความเสียหายที่เป็นข่าว
 
 
 
 
            ถ้าเราพูดกันในตัวบทกฎหมายก็สามารถอนุญาต รถปิคอัพให้บรรทุกยืดยาวได้จุดโดยมีผ้ายืดสีแดงติดไว้ทั้งด้านหน้าและด้านหลังจุดที่**ยืดยาวนอกรถทุกจุด แต่ถ้าถ้าประเทศอื่นจะไม่มีเช่นนี้ เพราะระบบการขนส่งถนนหนทางของประเทศไทยจะมีการจราจรติดขัดที่คับคั่งมาก เอารถบรรทุกขนาดใหญ่มาวิ่งในเมืองจะทำให้รถติดมากขึ้นรวมทั้งลดขนาดใหญ่มีการติดเวลาอีกด้วยในเมืองทำให้ไม่สามารถวิ่งขนส่งสินค้าได้ทันเวลา 
 
 
            ประกอบกับถนนบางเส้นเป็นถนนที่มีขนาดเล็กแค่ 2 เลนรถไม่สามารถแล่นผ่านส่วนกันได้รถบรรทุกขนาดใหญ่หมดสิทธิ์ เข้าได้ ในเมื่อเราไม่สามารถเอาชนะปัญหามีได้ก็จงแก้ไขปัญหาที่มีอยู่ให้ดีที่สุด จึงได้มีการออกกฏหมายอนุโลมให้ใช้รถเล็กบรรทุกสินค้ายืดยาวออกนอกรถได้
 
            โดยการป้องกันยึดถือความปลอดภัยเป็นหลักส่วนสำคัญก็คือบรรทุกอย่างไรถึงปลอดภัยถูกต้องตามกฏหมายในขณะที่ประหยัดทั้งแรงงานรถขนส่งและเวลาทั้งหมด
 
            ในฐานะที่ผมเคยส่งเหล็กมาก่อน เหล็กเลื่อนไหลหลุดแบบนี้มีครับแต่จะเกิดขึ้นได้ง่ายถ้า
 
            1. หลักๆเกิดจากมัดเหล็กไม่ถูกต้อง ต้องเรียงให้เสมอแล้ว แบบจัตุรัสในรูปแบบA. ต้องมัดเท่ากันหมดรัดหัวท้ายซ้ำ ในรูปมัดหัวเหล็ก แต่มัดท้าย ร่นมาตรงกลาง ทำให้ลื่นหลุดได้ง่าย ถ้าเรียงแบบสูงตํ่าแบบทรงภูเขาในรูปแบบ B. ที่ไม่เท่ากัน เหล็กที่ไม่โดนมัดเพราะรูปทรงก็จะไหลไปข้างหน้าเมื่อเบรก และจะไหลลงด้านหลังรถได้ ถ้าออกตัวแรงๆกระชากรถมากๆ
 
 
            2.โลบาร์โครง บรรทุกเหล็ก ไม่ควรสูงเท่ากันเสมอกันหน้าและหลัง ที่ถูกควรทำให้ด้านหลังต่ำด้านหน้าเก๋งให้สูงกว่า ในรูปครับ เพราะโดยเฉลี่ยรถหนัก จะออกตัวแรงจนเหล็กไหลลงไม่ได้มากทาง ด้านหลัง แต่มีเปอร์เซนต์จะพุ่งมาข้างหน้าได้มากแทน ถ้าเราเบรกและโลบาร์สูงเท่ากันทั้งหน้าและหลังเหล็กก็พุ่งมาด้านหน้าได้มากอย่างในรูป ถ้าโลบาร์ด้านหน้าสูง ก็จะไม่ด้านหลังต่ำพุ่งออกมามาก แรงพุ่งกดจะไปอยู่ที่รถบรรทุกแทนครับ
 
 
            3.ความเร็วที่รถบรรทุกเหล็กใช้คงมากเกินไป โดยเฉลี่ย น่าจะมากกว่า50กมต่อชม. ในความเร็วต่ำ เหล็กมีน้ำหนักในตัว เบรกแรงก็พุ่งออกมาได้บ้างแต่จะไม่ไหลออก แรงทะลุมัดแบบนี้กรณีนี้ต้องมาเร็ว หรือเบรกกระชั้น แรงมากๆ
 
            4.ในกรณี ที่ มัดเหล็กมีหลายชนิดรวมกันในมัดแล้วจำเป็นต้องมัดในทรงภูเขา ควรใช้วิธีขันชะเนาะ  แบบ รัดงูกัดนั่นแหละ)ในรูปไฮไลท์สีแดง (เชือกต้องใหม่ และเกรดดีหน่อยนะครับ และ เมื่อรถวิ่งไปสักระยะ ก็มาตรวจขันชะเนาะในเชือกอีกให้แน่นอีกเพิ่ม เพราะเชือกจะยืดตัวได้เมื่อรัดไปสักระยะ และต้องผูกรัดหัวท้าย ให้แน่นด้วยเช่นกัน
 

 
 
 
Cr :ชูเกียรติ ผาติเสนะ Fคลังเหล็กไทย
 

การใช้เหล็กทำโครงสร้างป้ายขนาดใหญ่

 
การใช้เหล็กทำโครงสร้างป้ายขนาดใหญ่
 
             ความเหมาะสมของการใช้เหล็กสำหรับโครงสร้าง กลางแจ้งหรือโครงสร้างภายนอก สำหรับวัสดุก่อสร้างเหล็กนับว่าเป็นวัสดุโครงสร้างที่สำคัญมากที่สุดอย่างหนึ่ง ถ้าจะเปรียบกับเสมือนกับร่างกายคนเราก็คงเหมือนกระดูก ทำให้ร่างกายทรงตัวอยู่ได้แข็งแรงรับน้ำหนักมวลกายทั้งหมดรวมทั้งปกป้องอวัยวะสำคัญอื่นๆทั้งยังสรรสร้างให้มีรูปร่างให้ชัดเจน เล็ก กว้าง ทรงต่างกัน เหล็กจึงมีความสำคัญต่อโครงสร้างทุกๆโครงสร้างไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่แค่ไหนก็ตาม สำหรับงานโครงสร้างภายนอกซึ่งต้องเผชิญคืนสภาพอากาศข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการใช้เหล็กทำโครงสร้างป้ายนั้นจะเห็นได้ชัดว่าส่วนใหญ่แล้วจะใช้เลขเป็นวัสดุและอาจจะมีการใช้ปูน หรือโครงสร้างคอนกรีตบ้างแต่ส่วนใหญ่ก็ใช้เป็นฐานเสาเข็มในการถ่วงน้ำหนัก เท่านั้นนอกจากใช้โครงสร้างเหล็กซึ่งสามารถรับแรงลมถ้าไม่เคลื่อนไหวได้เล็กน้อยไม่เกิดความเสียหายกับโครงป้ายหลัก
 

             โดยต้องคำนึงถึงความแข็งแรงและการรับน้ำหนักยังต้องเผื่อแรงลมทั้งน้ำหนักจร น้ำหนักคงที่ที่โหลดสามารถหลับได้และเมื่อเกิดแรงลมที่มีความแรงดึงมากเป็นพิเศษเช่นลมพายุลมกระโชกซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว สเตย์ที่เกิดจากเหล็กเส้นเพลาหยุด ยังต้องคำนึงถึงสภาพอากาศซึ่งมีทั้งอากาศร้อนอากาศชื้นรวมทั้งน้ำฝนความร้อน เปลี่ยนแปลงซึ่งโครงสร้างป้ายจะต้องผจญอยู่ตลอดเวลา
 
 
สิ่งสำคัญก็คือส่วนประกอบทั้งหมดจะต้องอยู่ในงบประมาณที่ไม่สูงจนเกินไปตรวจสอบได้ง่ายดังรูป
 
 
             รูปถ่ายที่เห็นเป็นโครงสร้างไปทำมาประมาณ 8 ปีโดย ใช้เหล็กคาร์บอนสตีลไพพ์ซึ่งจะมีปัญหาเรื่องสนิมเราจะผ่านไป 7- 8 ปีซึ่งบางครั้งทางช่างหรือผู้ออกแบบเน้นว่าใช้สีกันสนิมไพร์เมอร์ที่มีคุณภาพดีสามารถกันสนิมได้
 
 
             ข้อเท็จจริงก็คือว่าเหล็กท่อภายนอกไม่เกิดสนิมเร็วจากการทำสี ที่ถูกต้องมีคุณภาพดี แต่คาร์บอนสตีลไพพ์จะเกิดความชื้นขึ้นภายในภายในได้ หลังจากถูกความร้อนชื้นก็เกิดสนิมได้
 
             ยิ่งไม่ได้รับการเคลือบสีกันสนิมโดยวิธีการชุบสีทั้งชิ้นหรือซึ่งสิ้นเปลืองมาก การชุบทำให้เคมีเนื้อสีปกป้องสนิมได้ไม่ทั่วถึง บางจุดหนาไปบางไป เกิดฟองอากาศ เกิดสนิมได้ง่ายและจะลุกลามไปเรื่อยๆจนโครงสร้างเหล็กหมดสภาพเช่นกัน
 
 
             การชุบเคลือบด้วยกัลวาไน้ท์หรือเหล็กที่เป็นแผ่นโจทย์หรือผ่านกระบวนการชุบร้อน กัลป์วาไน้ท์ด้วยมาตรฐานต่างๆ เช่นastm a123 เหล็กประปาก็กันสนิมได้ดีรวมทั้งประหยัดการทาสีกันสนิมไปได้ด้วย เมื่อเราเปรียบเทียบกับสีที่มีคุณภาพดีราคารวมทั้งหมดเทียบสเปคเล็กที่ความแข็งและหนาไล่เลี่ยปรากฏว่าเลขตัวไหนมีราคาสูงกว่าแค่นิดหน่อยเท่านั้นแต่เวลาในการขึ้นงานใช้น้อยกว่ามาก ซึ่งอายุการใช้งานนานกว่ามากที่เดียวเฉลี่ยที่13-18 ปี เลยทีเดียวปัญหาก็คือรอยเชื่อมเหล็กกัลวาไน้ท์ก็จะเกิดการเป็นสนิมได้เช่นเดิม
 
             จึงควรเน้นที่บริเวณรอยเชื่อมให้มากที่สุดควรใช้ลวดเชื่อมซึ่งมีส่วนผสมพิเศษเช่นลูกค้าบนหรือมีส่วนผสมของเหล็กหล่อและสแตนเลสที่จะช่วยให้เกิดสนิมได้ยากมากขึ้นทั้งนี้การเกิดสนิมก็ยังอาจจะเกิดขึ้นได้เพราะเนื่องจาก รอยเชื่อมจะเกิดจากการประสานของเล็กลวดเชื่อมออกไซด์ฟลักของน้ำยาประสานเองดังนั้นจึงควรตรวจเช็ครอยเชื่อมอย่างละเอียดน้อย 2 ปีต่อ 1 ครั้ง การตรวจสภาพทั่วไป ปีละ 1 ครั้ง ตรวจสภาพทันทีหลังภัยธรรมชาติ น้ำท่วม ลมพายุ แผ่นดินไหว ไฟไหม้ เป็นเหตุให้ต้องตรวจสภาพทันทีหลังจาก ภัยธรรมชาติผ่านไป ห้ามประมาทครับ
 
             จุดใดมีรอยสนิมรอยแตกซึ่งอาจเกิดได้จากแรงลมและน้ำหนักจรที่เกิดขึ้นเฉพาะจึงควรทำการซ่อมแซมทันทีเมื่อพบเจอจะช่วยทำให้โครงสร้างป้ายคุณอยู่ได้นาน โดยใช้การซ่อมแซมงบประมาณและการดูแลเพียงเล็กน้อย
 

โดย ชูเกียรติ ผาติเสนะ

 
 

เหล็กเบา ชิวิตเขาเสี่ยงภัย-อย่าใจดำ CR:วารสาร TATA STEELINKS

                                               เหล็กเบา ชิวิตเขาเสี่ยงภัย-อย่าใจดำ

        เหล็กเบาเมื่อผลิตจากโรงงาน-โรงงานย่อมรู้ ยี่ปั้ว ซาปั้วที่ซื้อควรรู้ ผู้รับเหมาก่อสร้างต้องรู้ ผู้ว่าจ้าง ควรรู้ นั่นคือรู้ถึงอันตรายผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับสิ่งปลูกสร้าง ความร้ายแรงเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์ เมื่อใช้งานสิ่งปลูกสร้างนั้น ๆ อาจนั่งทำงาน รับประทานอาหาร หรือนอนหลับยามค่ำคืน
เหล็กเส้นที่ถูกต้อง
         เหล็กเส้นก่อสร้างที่ถูกต้องได้มาตรฐานหรือที่เรียกกันว่า เหล็กเต็ม มอกนั้น ลักษณะ ภายนอกที่พอจะสังเกตุได้เบื้องต้น คือ ตัวอักษรนูนบนเนื้อเหล็กแจ้งข้อมูลที่กฎหมายกำหนด เรียงกันไป ทั้งเหล็กเส้นกลม และเหล็กข้ออ้อย ที่ต้องมีชื่อผู้ผลิตหรือชื่อยี่ห้อชนิดของเหล็ก หากเป็น เส้นกลม จะเป็น RB (Round bar) เส้นข้ออ้อยจะเป็น DB (Deformed bar) และขนาด จากนั้น เป็นเกรดของเหล็ก เช่น SR24 DB40 DB50 และอักษรบังคับอื่น ๆ เช่น T (สำหรับข้ออ้อยที่ผ่าน กระบวนการความร้อนในการผลิต)
ตัวอย่างข้อมูลบนเนื้อเหล็กสำหรับ เส้นกลม ผิวเรียบเกลี้ยง ไม่มีปีก ลูกคลื่นหน้าตัดกลม ไม่เบี้ยว ไม่มีรอยแตก

ตัวอย่างข้อมูลบนเนื้อเหล็กสำหรับ ข้ออ้อย ต้องมีระยะบั้งเท่ากัน สม่ำเสมอตลอดทั้งเส้น
   
           ขั้นตอนตรวจสอบต่อไป คือการวัดเส้นผ่านศูนย์กลางและการชั่งน้ำหนักที่มีมาตรฐาน กำหนดชัดเจน ตามตารางตัวอย่าง (สนใจข้อมูลครบถ้วน สามารถเช็คได้ที่เว๊ปไซต์ของ สำนักงาน มาตรฐานสินค้าอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สมอ) www.tisi.go.th


                                               ตารางขนาดและน้ำหนักสำหรับเหล็กมาตรฐาน มอก.


ขนาด  Designation
เส้นผ่านศูนย์กลาง (มม.)  Designation Diameter (mm.)
มวลระบุ (กก./ม.) Unit Weight (kg/m.)   
 พื้นที่หน้าตัด (ตร.มม.) Cross Section Area (sq.mm.)
RB6
6
0.222
28.3
RB9
0.499 
63.6 
DB10
10 
0.616 
78.5
DB12
12 
0.888 
113.1 
DB16
16 
1.578
201.1







                
ใช้เหล็กเบาเท่ากับเตรียมก่ออาชญากรรม
         เหล็กเส้นที่ขาดตกบกพร่องมีไม่ครบข้อ กำหนดเหล่านี้ก็คือเหล็กเบานั่นเอง ที่ร้ายแรง ที่สุดก็คือขนาดและน้ำหนักไม ่ได้มาตรฐาน ซึ่งเมื่อใช้ก่อสร้างแล้วไม่ได้ความแข็งแรงตามแบบ ก่อสร้างที่กำหนดไว้จะก่อให้เกิดอันตรายอย่างมาก กับโครงสร้างและผลลัพธ์คือความไม่แข็งแรง แตกร้าวและพังลงมา แต่ทำไมจึงมีการใช้งานจน ทำให้มีปริมาณเหล็กเบากระจายอยู่ในตลาดมาก โดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัด ทั้งนี้เพราะความ เห็นแก่ตัวของผู้ประกอบการโรงงานที่ผลิตร้านค้า ที่ซื้อมาขายไป และผู้รับเหมาที่ต้องการลดต้นทุน ก่อสร้างโดยไม่สนใจอันตรายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น
   “ควรตระหนักเสมอว่าการใช้ เหล็กเบา เหล็กไร้มาตรฐาน เหล่านี้ เหมือนกับการเตรียม ก่ออาชญากรรม
          ดังนั้นเจ้าของโครงการที่ต้องการ ก่อสร้างโครงการที่มีคุณภาพ มีหลักประกัน ความปลอดภัยก็ต้องแสวงหาความรู้ และสร้าง หลักป้องกัน นั่นคือเพิ่มมาตรการตรวจสอบ วัสดุก่อสร้าง คัดเลือกบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ที่ซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ คัดเลือกเอเยนต์จำหน่าย เหล็ก และโรงงานผลิตเหล็กที่ได้มาตรฐาน การพึ่งตนเองในเรื่องนี้จำเป็นที่ทุกภาคส่วน ต้องร่วมมือกันทั้ง เจ้าของโครงการ ผู้ว่าจ้าง ผู้รับเหมาก่อสร้าง เอเยนต์ค้าเหล็ก ยี่ปั้ว ซาปั้วต้องไม่ตกเป็นเหยื่อโรงงานที่ผลิต เหล็กเบา ควรตระหนักเสมอว่าการใช้ เหล็กเบา เหล็กไร้มาตรฐานเหล่านี้เหมือน เข้าข่ายการเตรียมก่ออาชญากรรมทีเดียว

                   CR:วารสาร  TATA STEELINKS

คำถามสำคัญ เกี่ยวกับบ้านเหล็ก

คำถามสำคัญ
เกี่ยวกับบ้านเหล็ก
 
    วัสดุก่อสร้างในปัจจุบัน มีมากมายหลายประเภทแต่ถ้าเน้น ความแข็งแรงที่สุด ความสะดวกรวดเร็วในการสร้างที่สุด ต่อเติมได้ง่ายที่สุดโดยไม่ต้องรื้อโครงสร้างเก่าออก สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ รีไซเคิ้ลได้โดยไม่จำกัด ต้องยกให้วัสดุสำคัญคือ เหล็ก เหล็กมีทุกคุณสมบัติทุกข้อที่กล่าวมาในอันดับหนึ่ง ซึ่งเราไม่สามารถปฎิเสธได้เลย แม้ปัจจุบันจะมีการผลิตอุปกรณ์ก่อสร้างแบบต่างขึ้นมากมาย แต่ถ้าวัดกันด้วยคุณภาพ ความแข็งแรง ความสามารถในการใช้ร่วมกันกับวัสดุประเภทอื่น รวมทั้งมิติความสูงความกว้างของสิ่งปลูกสร้าง วิศวะกรและช่างรับเหมาตลอดจนผู้ออกแบบ ดีไซน์เนอร์ต้องยกให้ วัสดุก่อสร้าง เหล็กเท่านั้น ทางกิจรุ่งเรืองจึงยกบทความบางส่วนเกี่ยวกับ “บ้านเหล็ก” มาพอสมควร อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมเข้าไปเยี่ยมชมเวปได้ที่ http://www.kanglekthai.com 
 
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับบ้านเหล็ก
 
    1. บ้าน โครงสร้างเหล็กดูแตกต่างจากบ้านทั่วไป ความจริง ทั้งภายนอกและภายใน บ้านโครงสร้างเหล็กไม่ได้แตกต่างจากบ้านโครงสร้างไม้หรือปูนซิเมนต์เลย และถ้ามองใกล้ๆแล้วบ้านโครงสร้างเหล็กจะมีผนังที่เรียบกว่า มีรอยแตกร้าวน้อยกว่า และไม่มีรอยหัวตะปูบนพื้นผิว  

     2. โครงสร้างเหล็กจะรบกวนคลื่นวิทยุหรือโทรทัศน์หรือระบบคลื่นสัญญาณอื่นๆ ความจริง การรับคลื่นวิทยุหรือโทรทัศน์และการทำงานของระบบคลื่นสัญญาณอื่นๆยังคง เหมือนกับบ้านโครงสร้างไม้และปูนซิเมนต์ 

 
    3. บ้านโครงสร้างเหล็กมีประสิทธิภาพต่ำกว่าบ้านโครงสร้างไม้ ความจริง บ้านโครงสร้างเหล็กช่วยป้องกันการแตกร้าวของผนังและข้อต่ออันเนื่องมาจากการ หดตัวหรือการคดงอของไม้ ทำให้มีการสูญเสียพลังงานจากอากาศที่รั่วไหลน้อยลง 
 

 
    4. บ้านเหล็กจะถูกฟ้าผ่าได้โดยง่าย ความจริง บ้านเหล็กไม่ได้ล่อฟ้ามากไปกว่าบ้านโครงสร้างไม้หรือปูนซิเมนต์เลย เพราะมันเหนี่ยวนำไฟฟ้าลงสู่พื้นดิน สรุปว่าบ้านโครงสร้างเหล็กได้รับความเสียหายจากฟ้าผ่าน้อยกว่าบ้านไม้ 
 

 
     5. บ้านโครงสร้างเหล็กจะเกิดสนิม ความจริง การใช้โครงสร้างเหล็กชุบสังกะสีจะช่วยป้องกันสนิม 

     6. การแขวนรูปภาพหรือสิ่งของต่างๆในบ้านเหล็กทำได้ยาก ความจริง ตามปกติรูปภาพสามารถแขวนกับตะขอได้ ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของสิ่งนั้น สำหรับวัตถุที่หนักกว่าสามารถแขวนกับสกรูที่ขันเข้าไปโดยตรงกับเกลียวยึด (สามารถตรวจหาแนวยึดได้ด้วยแม่เหล็กธรรมดา)     หลายๆคนเข้าใจว่าเหล็กสั่งซื้อได้ยุ่งยาก ต้อต้องซื้อกับโรงงานหรือห้างโฮมมาร์ทเชิญมาที่ กิจรุ่งเรืองค้าเหล็กแล้วทุกปํญหาในการใช้เหล็กของทุกท่านจะกลายเป็นเรื่องสะดวกสบายเยี่ยมชมเราได้ที่ http://www.kanglekthai.com  
โดยคุณชูเกียรติ ผาติเสนะ
 
 

ข้อดีของเหล็กชุบกัลวาไนซ์

ข้อดีของเหล็กชุบกัลวาไนซ์
 
เหล็กชุบกัลวาไนซ์
 
ข้อดีของเหล็กชุบกัลวาไนซ์ (Hot-Dip Galvanized)
 
ปัจจุบันการป้องกันสนิมสามารถทำได้ 3 วิธีใหญ่ๆ  ดังนี้
 
    1. การเคลือบผิว
  • การพ่นโฟมกันสนิม
  • การทาสี/พ่นสีกันสนิม
  • การชุบซิ้ง (Electro Plated Galvanized)
  • การชุบ Hot-Dip Galvanized
  • การชุบโลหะอื่นๆ เช่น ดีบุก
 
    2. การทำเหล็กกล้าไร้สนิม (Stainless Steel)
 
        การทำเหล็กกล้าไร้สนิม สามารถทำได้โดยการเพิ่มส่วนผสมอื่นๆเข้าไป ทำให้เกิดเป็นฟิล์มบางๆ บนผิวเหล็ก เช่น นิเกิล (Ni) โครเมียม (Cr) ทั้งนี้ แผ่นฟิล์มที่เคลือบเหล็กจะช่วยป้องกันเหล็กสัมผัสกับบรรยากาศโดยตรง
 
 
 
 
    3. การใช้กระแสไฟฟ้า
 
        ทำได้โดยการทำให้เหล็กมีศักย์ไฟฟ้าสูงกว่าบริเวณโดยรอบ ทำให้เหล็กนั้นไม่สูญเสียอิเลกตรอน ให้กับบรรยากาศซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสนิม วิธีการนี้สามารถทำได้ในทุกสภาวะแวดล้อม แต่มีค่าใช้จ่ายสูง เหมาะกับโครงการที่เสี่ยงต่อการเกิดสนิมอย่างรุนแรง เช่น ท่อเดินน้ำมันในทะเล เป็นต้น
 
 
สรุป
 
        การป้องกันสนิมที่นิยมใช้กันในงานอุตสาหกรรม คือ การเคลือบผิวเนื่องจากมีราคาถูกกว่า สะดวกกว่า โดยการชุบ Hot-Dip Galvanized เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากราคาไม่แพง อายุการใช้งานนานกว่าทุกชนิดของการเคลือบผิว และเป็นที่ยอมรับในงานอุตสาหกรรม ส่งผลให้มีแนวโน้มการใช้งานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
 
 
 

การเลือกซื้อเหล็กให้ได้ราคาถูก(หลอก)จริงๆ


 การเลือกซื้อเหล็กให้ได้ราคาถูก(หลอก)จริงๆ
 
   1. ขนาดต้องวัดได้ตรงตามสเปค ใช้หน่วยมิลลิเมตร +/- <2% ขนาดและความหนาต้องเท่ากันทุกเส้น 
 
   2. มุมของเหล็กฉากหรือแป๊บ ต้องวัดได้ 90 องศา มุมฉากคม ไม่โค้ง หรือมนและไม่มีรอยต่อที่ เหล็ก ส่วนท่อกลมต้องกลมวัดทแยงมุมต้องได้เท่ากันทั้งหมด ไม่เป็นวงรีหรือมีรอยแตกเชื่อมไม่สนิท
 
  
 
 
   3. ความยาวเท่ากันทุกเส้น สีเหมือนกันทั้งหมด ไม่คดงอ หรือบิด ทดสอบโดยวางบนพื้นแล้วลองกลิ้งเหล็กไปมาสังเกตุได้ง่าย
 
   4. น้ำหนักเหล็กเส้นมาตรฐานทั้งข้ออ้อยเส้นกลม 
           ตั้งแต่ 6 มิลถึง 9 มิล น้ำหนัก +/- <3% ต่อเส้น 
           12 มิลถึง 16 มิล น้ำหนัก +/- <3.7% ต่อเส้น 
           16 มิลถึง 32 มิล น้ำหนัก +/- <4.5% ต่อเส้น 
           เส้นหน้าตัดต้องกลม 100% ไม่ใช่กลมรีหรือมีปีกไม่เสมอกัน 
           ข้ออ้อยลายต้องชัดหยักเสมอกันตลอดเส้น ลายไม่ล้มช่วงใดช่วงหนึ่ง
 
เหล็กเส้นกลม SR-24 
เหล็กข้ออ้อย
 
 
   5. น้ำหนักเหล็กรูปพรรณมาตรฐาน ในกรณีน้ำหนัก 
           ต่ำกว่า 10 กิโลกรัมต่อเส้น น้ำหนักต่อเส้น +/- <4.5% 
           ต่ำกว่า 50 กิโลกรัมต่อเส้น น้ำหนักต่อเส้น +/- <6.5% 
           ต่ำกว่า 100 กิโลกรัมต่อเส้น น้ำหนักต่อเส้น +/- <9.5% 
           ต่ำกว่า 300 กิโลกรัมต่อเส้น น้ำหนักต่อเส้น +/- <10.5%
 
   ข้อ 4 และ ข้อ 5 ในกรณีน้ำหนัก ขาดมากกว่าเปอร์เซนต์ที่กำหนด ให้เฉลี่ยรวมก่อนทุกเส้น ถ้ายังขาดมากกว่าเปอร์เซ็นต์ที่กำหนดถึง 6% ขึ้นไป ให้พิจารณาว่าได้เหล็กไม่มาตรฐานแล้ว (คือเหล็กเบา) ถ้าเฉลี่ยผิดพลาดจากเปอร์เซ็นต์ที่กำหนดแค่ 5% ให้ตรวจใบรับรองพร้อมเช็คกับโรงงานผู้ผลิตว่า ใบรับรองถูกต้อง หรือไม่ ถ้าถูกต้องอนุโลมให้ได้ตามสเปค  แต่ต้องขอใบคุมล๊อตผลิตแนบไปด้วย
 
   6. สเปคบนเหล็กตัวพิมพ์ ต้องชัดเจน ระบุเครื่องหมายการค้า (ยี่ห้อ) ชัดเจน ถ้าเป็นสติ้กเกอร์ต้องขอใบกำกับภาษีของผู้ผลิตอ้างอิงกับสินค้าได้ 
 
 
 
   7. สินค้ามีใบ มอก. อย่างเดียวต้องตรวจสอบโดยวิธีที่กล่าวมาทั้งหมดแล้วตามมาตรฐานวิศวกรรมและ ต้องมีใบคุมล็อตด้วย สามารถตรวจได้จริงตรงกับเหล็กที่ส่งมา
 
 
 
   8. ไม่มีสนิมหรือน้ำมันเคลือบสีอื่นใดๆ นอกจากสีธรรมชาติของเหล็ก ถ้าเป็นน้ำมันเคลือบจากโรงงานจะบางๆ สีอ่อน ไม่ดำมากเกินไป
 
 
 
   9. เวลาจับเนื้อเหล็ก จะต้องเป็นเนื้อเดียวไม่แตกเป็นเสี้ยนเหมือนไม้ หรือหยาบเป็นเกร็ดปลา เวลาเชื่อมจุดเชื่อมต้องต่อสนิทไม่แตกแสดงถึงจุดหลอมของเหล็กที่มีคุณภาพ
 
 
 
   10. หลังจากตรวจสอบอย่าง ละเอียดทุกข้อ แล้วควรซื้อจากร้านตัวแทนโดยตรงของบริษัทนั้นๆ ต้องสอบถามว่า ถ้าสินค้ามีปัญหา หรือสเปคไม่ตรงหรือปลอมปนเกรด B ต้องรับคืนในกรณีไม่ได้มาตรฐาน 
 
ข้อควรระวัง
1. ห้ามใช้ความเชื่อใจ ในกรณีไม่ได้ตามสเปค เพราะถ้าสิ่งปลูกสร้างพังลงมา จะเกิดความเสียหายต่อชีวิต และทรัพย์สินของท่าน
2. ระวังในกรณีของเหล็กเส้น จำนวนมาก จำนวนเส้นจะไม่ครบต้องตรวจสอบให้ละเอียด หรือใช้วิธีชั่งน้ำหนักและเฉลี่ยให้ใกล้เคียงที่สุด
3. เหล็กที่ไม่มาตรฐานความ แข็งแรงจะลดลงมาก หรือเหล็กจากจีนจะสังเกตุได้ไม่ยาก เพราะสีความเรียบเนียนเนื้อเหล็กต่างกันมาก เหล็กจีนไม่แนะนำให้ใช้ เพราะมีการปนปลอมสินค้าไม่ได้มาตรฐานมาก